วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การดูแลรักษาต้นพลูด่าง


การดูแลรักษาต้น พลูด่าง





แสง : ต้องการแสงแดดมาก ถ้าขาดแสงหรือแสงไม่พอ สีของใบจะซีดไม่สวย

อุณหภูมิ : ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 - 24 องศาเซลเซียส

ความชื้น : ชอบความชื้นพอสมควร ถ้าหากอากาศภายในห้องแห้งแล้ง ควรฉีดพ่นละอองน้ำให้

น้ำ : ควรให้น้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนอาจจะให้มากกว่านี้ก็ได้โดยเช็คจากผิวหน้าของดินในกระถาง

ดินปลูก : ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน

ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำอย่างเจือจางรดเดือนละ 1 ครั้ง

กระถาง : ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย 2-3 ปี อาจจะเปลี่ยนสักครั้งก็ได้

โรคและแมลง : ต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดี



สำหรับพูลด่าง ใช้ปุ๋ยเคมีแบบเม็ด มีขายที่ตามร้านต้นไม้ เค้าจะแบ่งขาย ถุงเล็กๆ ถุงละ 10 - 15


ตัวปุ๋ย ที่ดีสำหรับใบ จะพวก 10 - 0 - 0 หรือ เอาแบบรวม 15 - 15 - 15


ต้องหมั่น พ่นน้ำให้เค้า หากเลี้ยงในห้องแอร์ สลับสับเปลี่ยนให้ออกไปโดนแดดบ้าง


จริงๆเค้าไม่ชอบแดดจัด ชอบร่มรำไรๆๆ สังเกตุตามสวน เค้าจะเลื้อยเกาะต้นไม้ใหญ่ แล้วต้นจะใหญ่มาก

เพราะเค้าเป็นไม้อิงอาศัย ...ถ้าไม่ถูกแดดเลย ใบจะเหลืองจนอาจถึงตายได้



ปล. หากต้นเล็กๆ ใส่แค่ เม็ดสองเม็ดก็พอ 1 เม็ดจะอยู่ได้ ประมาณ 20 วัน อย่าใส่เยอะเดียว วัสดุปลูกจะเค็ม ต้นมันจะตายเอา




 ที่มา   :  http://www.kaweeclub.com/b104/(-)-4317/?wap2
ที่มาของรูป  :  https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3&es_sm=93&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ei=2miuU7jKDcWiugTnxoDwBw&ved=0CAcQ_AUoAg&biw=1440&bih=756#facrc=_&imgdii=_&imgrc=VzD--C8ctjUx4M%253A%3Bi_XKjy6l7IOCXM%3Bhttp%253A%252F%252Fp3.s1sf.com%252Fwo%252F0%252Fud%252F3%252F16038%252Fpothos-pyramid-vertical-garden.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fwomen.sanook.com%252F16038%252F%2525E0%2525B9%252580%2525E0%2525B8%2525AA%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B4%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B8%252587%2525E0%2525B8%252584%2525E0%2525B8%2525A5%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525A7%2525E0%2525B8%2525A2%2525E0%2525B8%252595%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B8%25259E%2525E0%2525B8%2525A5%2525E0%2525B8%2525B9%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B9%252588%2525E0%2525B8%2525B2%2525E0%2525B8%252587%252F%3B500%3B406






ต้นพลูด่าง

พลูด่าง Golden Pothos




       พลูด่างเป็นไม้เลื้อยที่นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคารและบ้านเรือนมานานแล้ว ด้วยรูปใบและสีเขียวแต้มเหลืองที่ดูสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อมันเลื้อยพันหรือห้อยย้อยลงมาดูอ่อนช้อยและเพิ่มความมีชีวิตชีวา แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงความสามารถในการดูดสารพิษในอากาศของพลูด่าง


       พลูด่างเป็นไม้เลื้อยที่ลำต้นมีรากงอกออกมาตามข้อ ใบกลมป้อมคล้ายรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบโค้งมนเล็กน้อย ใบมีสีเขียวและมีรอยด่างสีเหลืองอยู่ที่ใบทำให้ดูสวยงาม


       พลูด่างเป็นพืชที่ปลูกง่าย แม้เพียงปักชำในน้ำก็สามารถเจริญเติบโตได้และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ต้องการน้ำมากและแสงแดดพอสมควร แต่ก็สามารถอยู่ได้แม้มีแสงและน้ำน้อย นิยมปลูกในกระถางแขวนหรือกระถางที่มีเสาเหล็กให้เลื้อยพันหรือให้เลื้อยตามโคนต้นไม้ใหญ่ ถ้าปลูกลงดินใบจะใหญ่มาก



ที่มา  http://farmkaset.blogspot.com/2013/06/blog-post_7253.html

วิธีการขยายพันธุ์พืช

วิธีการขยายพันธุ์พืช


1. การตอนกิ่ง  คือ  การทำให้ส่วนของพืชเกิดรากในขณะที่ยังติดอยู่กับต้นแม่ คือ ทำให้เกิดรากพิเศษ  (adventitious roots)  เมื่อกิ่งออกรากดีแล้วก็ตัดไปปลูก ต้นพืชที่ปลูกและตั้งตัวได้ดีแล้ว จะกลายเป็นต้นพืชต้นใหม่ต่อไป สำหรับการตอนกิ่งเป็นวิธีการขยายพันธุ์ไม้ผลวิธีการหนึ่งที่นิยมทำกันมากเพราะสามารถกระทำได้โดยง่าย สะดวก และใช้อุปกรณ์น้อย

2.  การตัดชำ คือ การตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของต้น ใบ หรือรากของพืช แล้วนำมาชำไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดรากและยอด และพัฒนาเป็นพืชต้นใหม่ โดย
ที่ต้นใหม่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ทุกประการ

3.การต่อกิ่งหรือการเสียบกิ่ง   คือ การสอดส่วนของพืชหรือกิ่งพืชต้นหนึ่งลงบนต้นพืชอีกต้นหนึ่ง และส่วนทั้งสองของพืชจะเชื่อมประสานติดต่อกัน และเจริญไปเป็นพืชต้นใหม่ โดยส่วนที่อยู่ใต้รอยต่อจะทำหน้าที่เป็นรากดูดน้ำ และแร่ธาตุอาหาร เรียกว่า ต้นตอ  (rootstock, understock, stock)  และส่วนที่อยู่เหนือรอยต่อจะทำหน้าที่เป็นกิ่งก้านสาขาที่ให้ดอกและผลเร็วกว่ากิ่งพันธุ์ดี  (Scion or cion)

4. การติดตา   การนำเอาตาของกิ่งพันธุ์ที่ดีเพียงตาเดียวมาติดบนต้นตอ แผ่นตาอาจจะลอกเนื้อไม้ออกหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดพืช และวิธีการติดตา อาจเรียกการติดตาว่าการต่อตา  (bud grafting)

5.การทาบกิ่ง  คือ การนำต้นพืชสองต้น ซึ่งต่างก็ยังมีรากเหมือนกัน มาทำการเชื่อมติดเป็นต้นเดียว หลังจากที่รอยต่อเชื่อมกันสนิทดีและต้นตอมีรากในปริมาณที่มากพอจึงตัดกิ่งลงมาชำ

6.การแยก  (Separation) 
คือ การแยกส่วนของพืชออกจากกัน เช่น การแยกหัวของหอมแบ่ง หรือการแยกกระจุกหัวของแกลดิโอลัส  ส่วนการแบ่ง  (Division)  คือ การตัดออกเป็นชิ้นๆ แต่ละชิ้นมีตาซึ่งจะทำให้กำเนิดเป็นพืชต้นใหม่ขึ้น  เช่น มันฝรั่ง  เป็นต้น




ที่มา : http://thaigoodview.com/node/95643

การขยายพันธุ์พืช


การขยายพันธุ์พืช

ความหมายของการขยายพันธุ์พืช

    การขยายพันธุ์พืช ( Plant Propagation) หมายถึง การเพิ่มหรือทวีจำนวนต้นพืชให้มีมากขึ้นหรือหมายถึงการเพิ่มจำนวนพืชจากที่มีอยู่ แต่ไม่รวมถึงการเพิ่มจำนวนต้นพืชด้วยวิธีที่นำมาจากที่อื 1. การขยายพันธุ์พืชโดยอาศัยเพศ 2. การขยายพันธุ์พืชโดยไม่อาศัยเพศ หรือใช้ส่วนต่างๆของต้น         

หลักการขยายพันธุ์พืช
       การขยายพันธุ์พืชให้ประสบผลสำเร็จต้องมีความรู้ดังนี้    คือ
1. ต้องมีทักษะในการขยายพันธุ์พืช ผู้ที่จะทำการขยายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตอนกิ่ง การต่อกิ่ง ติดตา และทาบกิ่ง จำเป็นที่จะต้องฝึกปฏิบัติหัดเพื่อให้เกิดความชำนาญ
2. ต้องรู้จักโครงสร้างภายในต้นพืชและนิสัยการเจริญเติบโตของพืชและควรมีความรู้พื้นฐานทาง     ด้านพฤกษศาสตร์ พืชสวน พันธุศาสตร์ และสรีรวิทยาของพืช ความรู้พื้นฐานเหล่านี้มีส่วนช่วยให้การขยายพันธุ์ประสบผลสำเร็จอย่างมาก
3. ต้องรู้จักชนิดของพืชและวิธีการขยายพันธุ์ที่ให้ผลแน่นอน ซึ่งพืชแต่ละชนิดมีความยากง่ายในการขยายพันธุ์แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องทราบถึงเทคนิคต่างๆ ในพืชแต่ละชนิด ซึ่งความรู้อาจได้จากการศึกษาจากเอกสารทางวิชาการหรือจากผู้ที่มีประสบการณ์หรืออาจทำการศึกษาทดลองค้นคว้าด้วยตนเอง 

ความสำคัญของการขยายพันธุ์พืช
1.ความสำคัญต่อการดำรงพันธุ์ของพืช การขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศมักทำให้เกิดการ กลายพันธุ์ ดังนั้นการที่จะคงพันธุ์พืชที่ดีไว้จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีการขยายพันธุ์โดยวิธีการอื่นที่ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ โดยการขยายพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศเช่น ตัดชำ ตอนกิ่ง ต่อกิ่งและทาบกิ่งเป็นต้น

2.  เพื่อหาพันธุ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม เช่น การขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศ หรือใช้เมล็ดเพาะปลูก ถึงแม้จะทำให้ มีโอกาสกลายพันธุ์ได้มาก แต่การกลายพันธุ์อาจได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะที่ดีกว่าเดิม เช่น ลำไยพันธุ์ต่างๆ ที่ปลูกในภาคเหนือ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำมาจากประเทศจีน ต่อมามีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นทำให้ได้ลักษณะพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าพันธุ์เดิม

3. ความสำคัญต่ออาชีพเกษตร อาชีพเกษตรมีความผูกพันธ์กับการขยายพันธุ์พืชอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสาขาพืช ไม่ว่าจะมีอาชีพปลูกพืชชนิดใด จะต้องเกี่ยวข้องกับการขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณอยู่ตลอดเวลา จึงควรอย่างยิ่งที่เกษตรกรสาขาพืชจะเรียนรู้หลักการและวิธีการขยายพันธุ์พืชที่ถูกต้อง และเหมาะสมเพื่อช่วยการประกอบอาชีพการเกษตรให้ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น







ที่มา : http://thaigoodview.com/node/95643

วิธีปลูกต้นไม้ในกระถาง

วิธีปลูกต้นไม้ในกระถาง



          ปลูกต้นไม้ในกระถางเป็นไอเดียที่ดี และเหมาะกับคนรักต้นไม้แต่ไม่มีพื้นที่เพียงพอในการปลูก อีกทั้งการปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ดอก หรือไม้ชนิดอื่น ๆ ไว้ในกระถางยังสามารถนำมาประดับตกแต่งภายในอาคารได้ เพราะเคลื่อนย้ายง่าย และดูแลไม่ยากเท่าไร แต่ถ้าคุณกำลังนึกอยากปลูกต้นไม้ในกระถางอยู่พอดี แต่ยังไม่รู้จะปลูกอย่างไร วันนี้เรามี 10 วิธีปลูกต้นไม้ในกระถางให้สวยเป๊ะมาฝากกันด้วยค่ะ



 1. เลือกกระถางให้เหมาะสม

          ขนาดกระถางและขนาดต้นไม้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เราควรต้องคำนึงถึง เพราะหากต้นไม้มีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่ากระถาง ก็จะดูไม่สมดุล ดังนั้นจึงควรเลือกกระถางให้เหมาะสม รวมไปถึงต้องตรงกับความต้องการของเราด้วย เช่น หากว่าต้นไม้เป็นพันธุ์ที่โตเร็ว และต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้กระถางใหญ่ที่มีลักษณะกลม ปากกว้าง ซึ่งเป็นกระถางที่ใช้กันทั่วไปและเป็นที่นิยม เพราะง่ายต่อการย้ายต้นไม้ลงดิน หรือถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบจัดสวน เคลื่อนย้ายตำแหน่งกระถางต้นไม้บ่อย ๆ ก็ควรเลือกใช้กระถางที่ทำจากโฟม หรือกระถางที่ทำมาจากไฟเบอร์กลาสเพราะมีความเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ส่วนถ้าต้องการกระถางที่มีความหนักแน่น ก็ควรเลือกใช้กระถางเซรามิก หรือกระถางที่ทำมาจากปูนค่ะ

 2. ควรใช้ดินผสม

          ดินที่ใช้ในกระถางต้นไม้ควรจะเป็นดินปนทราย ที่มีพีทมอส ปุ๋ยหมัก ขุยมะพร้าว ถ่านป่น หรืออิฐป่น ผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยให้พืชได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ไม่มีความเป็นกรด-ด่างในดินมากเกินไป และเพื่อให้ดินถ่ายเทอากาศ และอุ้มน้ำได้ดี นอกจากนี้ควรหมั่นพรวนดินในกระถางด้วยตะเกียบหรือไม้แหลมก็ได้ และควรใส่ปุ่ยเพื่อบำรุงให้ต้นไม้เจริญงอกงามอยู่เสมอด้วย

 3. ปลูกพืชตามความชอบ

          การจะปลูกพืชในกระถางให้สวยงาม สำคัญที่คุณต้องชอบต้นไม้หรือดอกไม้ชนิดนั้นด้วย หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบไม้ดอก ก็เลือกปลูกมะลิ กุหลาบ หอมเจ็ดชั้น เป็นต้น แต่ถ้าชอบพืชที่มีความทนทาน และเป็นไม้มงคลก็เลือกปลูกพลูด่าง เศรษฐีเรือนใน เป็นต้น ส่วนคนที่ชอบไม้ดอกพุ่มกะทัดรัด แนะนำให้ปลูกแอฟริกันไวโอเลต พิทูเนีย หรือเฟิร์นต่าง ๆ ก็ได้ ชอบแบบไหน ก็เลือกปลูกกันได้ตามสบายเลยจ้า

 4. เลือกต้นไม้ที่มีสุขภาพดี

          ต้นกล้าที่จะนำมาปลูกต้องมีความสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และสุขภาพดี ไม่มีโรคพืช หรือแมลงติดมาเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้พืชโตช้า หรือตายเร็ว เผลอ ๆ อาจจะแพร่กระจายโรคพืชไปยังต้นไม้ต้นอื่นด้วย ดังนั้นก่อนเลือกพันธุ์ไม้มาปลูกในกระถาง ก็ควรต้องเลือกพืชที่มีใบเขียวสด และลำต้นแข็งแรง ดูพร้อมจะเจริญเติบโตได้อย่างดี เคลื่อนย้ายกระถางไม่ลำบากด้วย

 5. ดูแลให้ถูกต้อง

          เพื่อให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตได้อย่างดี มีความสวยงามแข็งแรง จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย ๆ เราก็ควรดูแลต้นไม้ในกระถางให้ถูกวิธี ด้วยการเลือกใช้ดินให้เหมาะสมกับชนิดพืช อย่าลืมปนกรวดลงไปในดินเพื่อให้ช่วยยึดพืช และเพิ่มช่องว่างให้อากาศและน้ำถ่ายเทได้สะดวก ไม่ขังอยู่ในกระถางจนรากเน่า นอกจากนี้ควรรดน้ำอย่างพอดีกับต้นไม้ และหมั่นนำไปวางกลางแจ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้พืชได้รับแสงอาทิตย์ไว้คอยสังเคราะห์แสงด้วย แต่ก็ไม่ควรตั้งกระถางต้นไม้ในที่ที่มีความร้อนหรือแดดแรงจนเกินไป ลมโกรกมาก ๆ ก็ไม่เหมาะ เพราะอาจจะทำให้ลำต้นโย้เอียงได้


 6. จัดเรียงกระถางให้เหมาะสม

          เราสามารถเลือกปลูกดอกไม้ในกระถางได้หลายชนิด แต่ก็ควรจัดวางกระถางให้เหมาะสม โดยจัดวางกระถางในตำแหน่งที่แสงสามารถส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ที่สำคัญต้องจัดเรียงลำดับกระถางให้ดี เแนะนำให้เรียงตามลำดับความสูง กระถางที่มีต้นไม้สูง ๆ ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งที่จะบังแสงที่จะส่องไปถึงต้นไม้เล็ก ๆ ได้ จะได้ไม้แย่งแสงกัน พาให้ต้นไม้พันธุ์ที่เตี้ยกว่า เสียโอกาสรับธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่


 7. รดน้ำอย่างถูกวิธี

          หากสังเกตเห็นว่าหน้าดินเริ่มแห้ง ก็แสดงว่าต้นไม้เริ่มขาดน้ำ แต่การจะรดน้ำต้นไม้ในกระถางให้ต้นไม้ได้น้ำอย่างเต็มที่ อันดับแรกต้องดูที่ชนิดต้นไม้ก่อน ว่าเป็นพืชที่ชอบน้ำมากน้อยแค่ไหน ถ้าชอบน้ำน้อย ให้รดน้ำด้วยวิธีใช้ขวดสเปรย์ฉีดพรมจนชุ่มก็ได้ แต่ถ้าเป็นต้นไม้ชนิดที่ชอบน้ำมาก ให้ค่อย ๆ ใช้น้ำอุ่นรดลงไปที่หน้าดิน เพราะน้ำอุ่นจะซึมลงสู่ดินได้ง่ายกว่าน้ำอุณหภูมิปกติ ระหว่างที่รดน้ำก็ค่อย ๆ ใช้ดินสอหรือตะเกียบจิ้มดินให้เป็นรู เพื่อช่วยให้น้ำซึมลงสู่รากได้อย่างทั่วถึง

 8. ให้ปุ๋ยและสารอาหารสม่ำเสมอ

          ต้นไม้อาจจะเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ถ้าเราไม่ให้ปุ๋ยเป็นอาหารเสริมเลย ดังนั้นนอกจากการดูแลขั้นพื้นฐานอย่างการรดน้ำพรวนดินแล้ว เราก็ควรต้องใส่ปุ๋ยและกำจัดแมลง รวมถึงศัตรูพืชด้วย จะเลือกใช้น้ำหมักธรรมชาติ หรือปุ๋ยตามชนิดที่พืชต้องการก็ได้ หมั่นดูแลเขาอย่างสม่ำเสมอ เขาจะได้เติบโตสวยงามให้เราชื่นชมไปนาน ๆ นะคะ

 9. ตัดแต่งสักนิด

          ต้นไม้ที่มีใบแห้ง เริ่มเหลือง หรือกิ่งเริ่มไม่สวยงาม เราก็ควรตัดแต่งกิ่ง ริดใบเหลือง ๆ และคอยตรวจตราดูเพลี้ยและศัตรูพืชอยู่เสมอ เพราะการริดใบที่เริ่มเน่า ใบที่เป็นโรค และการตัดแต่งกิ่งส่วนเกิน จะช่วยรักษาระดับน้ำและสารอาหารให้พืช ไม่ต้องส่งไปยังกิ่งหรือใบเหล่านี้อีก แต่การตัดแต่งกิ่งหรือริดใบทุกครั้งควรใช้อุปกรณ์ตัดแต่งกิ่งด้วยนะคะ เพราะหากริดใบด้วยมือ อาจจะส่งผลกระทบกระเทือนไปถึงราก ทำให้รากของต้นไม้เสียหายได้

 10. ถึงเวลาเปลี่ยนถ่าย
        
          เมื่อพืชเริ่มหยุดการเจริญเติบโต และไม่ค่อยรับน้ำแล้ว ก็ให้ตรวจสอบดูที่รากของต้นไม้ได้เลย เพราะนี่คือสัญญาณที่บอกว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนกระถางเพราะต้นไม้โตเกินกว่าที่จะอยู่ในกระถางเดิมแล้ว เอาล่ะ! ได้เวลาย้ายที่อยู่ไปยังกระถางที่ใหญ่กว่า หรือบางต้นที่มีรากเยอะมาก ก็อาจจะแยกปลูกเป็น 2-3 กระถางได้เลยจ้า






ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไม้ดอกไม้ประดับ

 ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไม้ดอกไม้ประดับ






            1.  ดิน เป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับแรกเพราะดินจะช่วยพยุงลำต้น เป็นแหล่งให้น้ำให้อากาศตลอดจนแร่ธาตุต่าง ๆ ดินที่อุดมสมบูรณ์พืชก็จะเจริญเติบโตได้ดี


            2.  ความชุ่มชื้นหรือน้ำ หมายถึง ความชุ่มชื้นที่อยู่ในดิน และความชุ่มชื้นที่อยู่ในอากาศ ดินที่อุดมสมบูรณ์มีธาตุอากาศ หากขาดน้ำในดินรากก็ไม่สามารถดูดไปใช้ได้ ความชุ่มชื้นในอากาศมีความจำเป็นต่อต้นไม้เพราะจะช่วยให้ต้นไม้สดชื่นอยู่เสมอ


            3.  แสงสว่าง มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นพืชนับตั้งแต่เมล็ดเริ่มงอก การสร้างฮอร์โมนในพืช การสร้างเม็ดสี ตลอดจนการออกดอกผลและอื่น ๆ พืชบางชนิดจะออกดอกเมื่อได้รับแสงสว่างเพียงพอ


            4.  อุณหภูมิ เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต คุณภาพของดอกและปริมาณดอก


            5.  ปุ๋ย การเจริญเติบโตของพืชต้องการอาหารธาตุ ในการเจริญเติบโตจะได้รับอาหารธาตุเหล่านั้นจากดิน น้ำและอากาศ ในปัจจุบันธาตุในดินไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อปรุงดินให้มีธาตุตามที่พืชต้องการ


            6.  โรคและแมลง โรคที่เกิดกับพืชมีทั้งโรคที่เกิดจากเชื้อรา และแบคทีเรีย ส่วนแมลงนั้นมีมากมายหลายชนิด เช่น เพลี้ย หนอนต่าง ๆ เป็นต้น การฉีดยาป้องกันโรคและแมลงก่อนจะช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี


            7.  การตัดแต่ง จะมีผลต่อการเจริญเติบโต แตกกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดรูปร่างรูปทรงของพืชนั้น รวมทั้งการตัดกิ่งที่ไม่ต้องการออกด้วย


            8.  ตำแหน่งที่ปลูก มีผลต่อการเจริญเติบโตอีกประการหนึ่ง การเรียนรู้ลักษณะนิสัยของพืชนั้น ๆ จะทำใหสามารถเลือกสถานที่ที่จะปลูกพืชได้เหมาะสมเพื่อให้มีการเจริญเติบโตได้ดี







ที่มา : http://home.kapook.com/view54749.html

คุณภาพของไม้ดอกไม้ประดับ

 คุณภาพของไม้ดอกไม้ประดับ  

          ไม้ดอกและไม้ประดับเป็นอวัยวะของพืชที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งเมื่อมีการสูญเสียคุณภาพของก้าน ใบ หรือดอก จะไม่สามารถจำหน่ายได้ เพราะตลาดไม่ยอมรับ การสูญเสียคุณภาพมีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น การเหี่ยว การร่วงของใบหรือกลีบดอก การโค้งงอ เป็นต้น ในการคัดคุณภาพหรือจัดมาตรฐานไม้ดอกไม้ประดับนั้น ต้องเข้าใจสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของไม้ดอกไม้ประดับเสียไปด้วย ได้แก่

           1.  การเจริญเติบโตจนแก่ ทำให้คุณภาพเสื่อมลง และอาจทำให้เกิดการโค้งงอของก้านดอกได้

           2.  การเสื่อมสภาพเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้กำลังจะหมดอายุซึ่งคุณภาพจะต่ำลง

           3.  การเหี่ยว อายุการปักแจกันของดอกไม้และใบไม้ขึ้นอยู่กับการได้รับน้ำอย่างต่อเนื่องและพอเพียง

           4.  การเหลืองของใบและอวัยวะอื่น ๆ ทำให้ดอกหมดอายุการใช้งาน

           5.  การร่วงของกลีบดอกและใบหรืออวัยวะอื่น ๆ จากสาเหตุต่าง ๆ










ที่มา : http://home.kapook.com/view54749.html
ที่มาของรูป : https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A&tbm=isch&ei=VWWuU5upGsWdugSu5oCIBA#facrc=_&imgdii=_&imgrc=9-P95eF1KZ3D7M%253A%3BfbFnrhynKaYuHM%3Bhttp%253A%252F%252Fpirun.ku.ac.th%252F~b5310303464%252Fvb.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fpirun.ku.ac.th%252F~b5310303464%252F%3B2592%3B1944

การจำแนกประเภทและแบ่งพันธุ์ไม้


 การจำแนกประเภทและแบ่งพันธุ์ไม้

          มีหลักพิจารณาและจำแนกต่างกัน แล้วแต่ความมุ่งหมายและความประสงค์ ซึ่งอาจแบ่งจำพวกพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเป็น 3 พวกใหญ่ ๆ คือ

  1. การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามความมุ่งหมายที่ใช้ หมายถึง การแบ่งพันธุ์ไม้ตามความต้องการและมุ่งหมายที่จะนำมาใช้เพื่อประโยชน์ ดังนี้

          1) ไม้ตัดดอก (Cut flower plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูก ณ สถานที่ที่มีภูมิประเทศ ภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม เช่น สายลม แสงแดด อุณหภูมิ ดิน น้ำ ความชื้นสัมพัทธ์ การคมนาคม และระยะทางที่เหมาะสม เพื่อตัดเฉพาะส่วนดอกหรือช่อดอก ไปใช้ประโยชน์ หรือจำหน่าย เช่น แกลดิโอลัส เบญจมาศ เยอร์บีรา หน้าวัว กุหลาบ ดาวเรือง คาร์เนชัน และบัวหลวง ไม้ดอกดังกล่าวนี้ จะถูกตัดออกจากต้นไปใช้ประโยชน์พร้อมทั้งก้านดอกด้วย ทั้งนี้เพราะก้านดอกเป็นแหล่งสะสมอาหาร เมื่อดอกถูกตัดจากต้นเพื่อนำไปปักแจกัน หรือจัดกระเช้า อาหารที่เก็บสะสมไว้ที่ก้านดอกจะถูกนำมาใช้ ช่วยให้ดอกไม้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ดังนั้นคุณลักษณะสำคัญของไม้ตัดดอก นอกจากดอกจะต้องสวยสดแล้ว ก้านดอกก็ต้องใหญ่ ยาว และแข็งแรง แต่ไม่เกะกะเก้งก้าง บรรจุหีบห่อได้ง่าย ขนส่งสะดวก มีน้ำหนักไม่มากนัก และเก็บรักษาได้นาน

          ยังมีไม้ดอกอีกหลายชนิดที่มีก้านดอกสั้น กลวงและเปราะหักง่ายแต่ดอกสวยหรือมีกลิ่นหอม อายุการใช้งานทนนาน สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีในวิถีชีวิตของคนไทย โดยการนำเฉพาะส่วนดอกไปร้อยมาลัย ทำอุบะ จัดพานพุ่ม หรือนำไปจัดแจกัน โดยใช้ก้านเทียมแทน เช่น รัก มะลิ พุด จำปี จำปา แวนดาโจคิม บานไม่รู้โรย

           2) ไม้ดอกกระถาง (Flowering pot plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกเลี้ยงในกระถางตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดหรือย้ายต้นกล้า โดยการเปลี่ยนกระถางให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นลำดับให้เหมาะสมกับความสูงและการเจริญเติบโตของต้น เมื่อออกดอก จะนำไปใช้ประโยชน์ในการประดับทั้งต้นทั้งดอก พร้อมทั้งกระถาง ทำให้อายุการใช้งานทนนานกว่าไม้ตัดดอก เช่น บีโกเนีย แพนซี แอฟริกันไวโอเลต กล็อกซิเนีย อิมเพเชียน พิทูเนีย

          ไม้ดอกที่นำมาปลูกเป็นไม้กระถางจึงต้องมีทรงพุ่มต้นกะทัดรัด ไม่เกะกะเก้งก้าง หรือมีต้นสูงใหญ่ เกินกว่าที่จะนำมาปลูกเลี้ยงได้ในกระถางขนาดเล็กพอประมาณเพื่อความสะดวกในการขนย้าย ที่สำคัญคือควรจะออกดอกบานพร้อมเพรียงกันเกือบทั้งต้น เพื่อความสวยงามในการใช้ประดับ ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าอย่างมาก มนุษย์สามารถปลูกเลี้ยงไม้ดอกหลายๆ ชนิดในกระถางขนาดเล็ก แม้จะมีขนาดต้นสูงใหญ่ โดยการใช้สารเคมีที่เรียกว่า สารชะลอการเจริญเติบโต ราดหรือพ่น เพื่อทำให้ไม้ดอกเหล่านั้น มีขนาดต้นเตี้ยลงตามความต้องการ ตลอดจนใช้เทคนิคบางประการในระหว่างการปลูกเลี้ยง เพื่อบังคับให้ไม้ดอกออกดอกพร้อมเพรียงกันทั้งต้นได้ โดยคงจำนวน ขนาด และสี ตลอดจนความสวยงามของดอก ให้ใกล้เคียงกับของเดิมทุกประการ

          3) ไม้ดอกประดับแปลง (Bedding plant)

          หมายถึง ไม้ดอกที่ปลูกลงแปลง ณ บริเวณที่ต้องการปลูกตกแต่ง เพื่อประดับบ้านเรือน อาคารสถานที่ ตลอดจนสวนสาธารณะ โดยไม่ตัดดอกหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ประโยชน์ แต่ปล่อยให้ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม ติดอยู่กับต้นภายในแปลงปลูก เพื่อประโยชน์ในการประดับ จนกว่าจะร่วงโรยไป



  2.  การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามลักษณะนิสัยของพันธุ์ไม้ เช่น การแบ่งตามถิ่นกำเนิด แบ่งตามอายุความเจริญเติบโตของพันธุ์ไม้ ตามลักษณะเนื้อไม้ ตามสิ่งแวดล้อม และตามลักษณะของลำต้น



  3.  การแบ่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับตามหลักพฤกษศาสตร์ มีความมุ่งหมายเพื่อจำแนกพันธุ์ไม้ทั่ว ๆ ไปให้แน่ชัดในรูปร่าง ลักษณะนิสัยการดำรงชีพ และการสืบพันธุ์ ของพันธุ์ไม้ให้อยู่เป็นกลุ่มที่แน่นอน ไม่ปะปนกัน









ที่มา : http://home.kapook.com/view54749.html
ที่มาของรูป : https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A&tbm=isch&ei=VWWuU5upGsWdugSu5oCIBA#facrc=_&imgdii=_&imgrc=VmeYiwOGnjBSWM%253A%3BH_o6ml7o3yWlrM%3Bhttp%253A%252F%252Fuc.exteenblog.com%252Fhellcat%252Fimages%252Fboard%252FFlower.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fhellcat.exteen.com%252Fcategory%252FTravel%252Fpage%252F2%3B800%3B536

ความหมายของไม้ดอกไม้ประดับ

 ความหมายของไม้ดอกไม้ประดับ  

          ไม้ดอก หมายถึง พันธุ์ไม้ทุกชนิดที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากความสวยงามของดอก มีดอกสวยงาม ดอกดก บานทน นิยมปลูกไว้ให้บานสวยงามอยู่กับต้นหรือตัดออกไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่าย ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มได้ 2 กลุ่ม คือ ไม้ดอกประดับ และไม้ตัดดอก

          ไม้ดอกประดับ คือ พันธุ์ไม้ดอกทุกชนิดที่ปลูกไว้เพื่อประดับบ้านเรือนอาคารสถานที่โดยให้ดอกบานติดอยู่กับต้น เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้สถานที่นั้นน่าอยู่อาศัยหรือน่าทำงาน ได้แก่ เข็มญี่ปุ่น พิทูเนีย แพงพวย พุทธรักษา บานชื่น ปทุมมา บัวสาย ฯลฯ ซึ่งหลายชนิดสามารถนำไปปลูกเป็นไม้ตัดดอกได้

          ดังนั้น ไม้ดอกไม้ประดับ จึงหมายถึงพันธุ์ไม้ที่ปลูกขึ้นเพื่อทำให้เกิดความสวยงามทั้งภายในบริเวณบ้าน เช่น ในบริเวณสนามรอบ ๆ ตัวบ้าน แขวนไว้ตามชายคาบ้าน และตั้งประดับไว้ตามส่วนต่าง ๆ ภายนอกตัวบ้านหรืออาคาร เป็นต้น








ที่มา : http://home.kapook.com/view54749.html
ที่มา  :   https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A&tbm=isch&ei=VWWuU5upGsWdugSu5oCIBA#facrc=_&imgdii=_&imgrc=bHLZZWhD8KQs8M%253A%3BpeZ-bLZGZNYIGM%3Bhttp%253A%252F%252Fwww.homedec.in.th%252Fwp-content%252Fuploads%252F2014%252F03%252F%2525E0%2525B9%252584%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B9%252584%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%25259A1.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fwww.homedec.in.th%252F%2525E0%2525B9%252584%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%2525AD%2525E0%2525B8%252581%2525E0%2525B9%252584%2525E0%2525B8%2525A1%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%25259B%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%2525B0%2525E0%2525B8%252594%2525E0%2525B8%2525B1%2525E0%2525B8%25259A%252F%3B512%3B384

ประวัติส่วนตัว

   ประวัติส่วนตัว








ชื่อ นางสาวกฤฏิยา  จินดาศักดิ์
ชื่อเล่น  มุกมิก     อายุ 15 ปี
เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4/3
ศึกษาอยู่ที่  โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
ที่อยู่  33/1 ซ.กาญจนวิถี 16 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.ส.ฎ.
instagram   mmookkty
facebook    mookmic kty
งานอดิเรก ชอบดูรายการสอนทำอาหาร , ช้อปปิ้ง 
อนาคต อยากเป็นช่างภาพ